หลังจากที่เพิ่งได้มีโอกาสสัมผัสกับเจ้า Nike Air VaporMax มาไม่นานนี้เอง เนื่องจากสินค้าขาดตลาดอย่างรวดเร็ว เพราะมีผู้สั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าหลัก หรือแม้แต่ร้านฝากหิ้วก็ปิดรับหมดเลย โชคดีที่ผมได้คู่นี้มาจากในร้านต่างประเทศ วันนี้เลยอยากจะนำมาแกะกล่องรีวิวให้ทุกคนได้ชมกันแบบเต็มๆ ตา ว่ารองเท้าคู่นี้มันดียังไงถึงแย่งซื้อกันจนของขาดตลาดกันเลยเชียว สำหรับรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ถ้าใครไม่ชอบก็ขออภัยก่อนล่วงหน้าเลยนะครับ เอาล่ะ เราไปเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า
เปิดกล่องรองเท้า Nike Air VaporMax
ตัวกล่องรองเท้ามาในโทนสีขาวดูเรียบง่ายสะอาดตา แต่ถ้าสังเกตดูดีๆ จะมีลายจุดที่คล้ายกับที่คล้ายกับสัญลักษณ์ของ Nike โดยข้างกล่องมีตัวหนังสือสกรีนคำว่า VaporMax ซึ่งมีการเน้นตัวหนาในส่วนของคำว่า MAX ที่สื่อถึงประสบการณ์ที่ผู้สวมใส่จะได้รับจากรองเท้าคู่นี้ เมื่อเราลองมาดูเทคโนโลยีของ NIKE จะพบว่าเจ้า VAPORMAX เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ทำให้รองเท้าที่เบาอยู่แล้ว เบามากยิ่งขึ้นไปอีกเหมือนเดินในอากาศ โดยหลักการคือการนำเอาชั้นรองเท้าออกไปชั้นหนึ่ง คือ แผ่นรองพื้นร้องเท้า ทำให้รองเท้าคู่นี้มีน้ำหนักเบามาก หรือน้ำหนักเพียงแค่ 9 ออนซ์
น้ำหนักที่เบาไม่ได้เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจทั้งหมดของรองเท้าคู่นี้ เพราะพิเศษยิ่งไปกว่านั้น VaporMax เป็นร้องเท้าที่ทำขึ้นมาจากวัสดุพิเศษที่เรียกว่า Flyknit เป็นเนื้อผ้าชนิดใหม่ที่พัฒนาโดยบริษัท Nike เป็นผ้าที่มีความยืดหยุ่นสูง เมื่อสวมใส่แล้วรู้สึกสบายพอดีเท่า นอกจากจะมีความยืดหยุ่นแล้ว ยังมีการระบายอากาศที่ดี หมดห่วงเรื่องกลิ่นเหม็นอับไปได้เลย
ตัวรองเท้าที่นำมารีวิวในวันนี้เป็น Nike Air VaporMax สีแดง หรือ Dark Team Red เป็นสีแดงผสมโทนสีดำที่ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง แม้จะเป็นสีแดงแต่ก็ไม่ได้มีสีสันฉูดฉาดจนเกินไป ในขณะที่ด้านข้างของตัวรองเท้ามีโลโก้สีดำของ Nike ติดอยู่อย่างสวยงาม ใครเห็นก็ต้องรู้ว่านี้แหละรองเท้าของลูกผู้ชายตัวจริง
ความรู้สึกหลังจากได้ลองใช้งาน
หลังจากได้ลองสวมใส่ใช้งานจริงแล้ว โดยผูกเชือกไม่มีความกระชับแนบชิดกับเท้า ผลที่ได้คือความรู้สึกที่นุ่มเท้าพอดีเลยทีเดียว รู้สึกได้ถึงความยืดหยุ่นของเนื้อผ้า Flyknit มั่นใจได้ว่าถ้าไปไปใช้วิ่งออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาหนักๆ ก็ไม่น่าจะเป็นห่วงอะไร เมื่อแกะดูแผ่นรองเท้าหรือ Insole ออกมาจะพบว่าเป็นวัสดุที่ทำมาจากโฟมที่ค่อนข้างแข็ง ไม่ค่อยมีความยืดหยุ่นเหมือนกับรองเท้ารุ่นอื่นๆ อาจเป็นเพราะเป็นผลมาจากการดีไซน์รองเท้าเฉพาะในรุ่นของ VaporMax ที่มีการตัดเอาพื้นร้องเท้าส่วนกลางออกไป
ตามที่ทางผู้สร้างได้เครมเอาไว้ว่าเจ้ารองเท่า VaporMax เป็นรองเท้าที่ประกอบไปด้วย AIR มากที่สุด ด้วยความที่มันมี AIR มากขนากนี้ทำให้หลายคนกังวลว่าถ้าไปไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือเส้นทางที่ไม่ค่อยเรียบจะเป็นอย่างไร ซึ่งทางบริษัทก็ได้ส่งไปทดสอบสุดโหดมาแล้วในหลายประเทศ รวมถึงผู้ใช้งานในอินเตอร์เน็ตก็ท้าพิสูจน์กันหลายคน ไม่ว่าจะเอาไปลองย้ำเศษแก้วบนท้องถนน แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะรอดมาได้ แต่ถ้าเป็นเศษแก้วชิ้นใหญ่ หรือชิ้นส่วนอะไรก็ตามที่มีความแหลมคม คาดว่ามันก็คงไม่รอดแน่นอน และส่วนตัวผมเองก็ไม่อยากลองกับตัวเองด้วย
สุดท้ายหลังจากที่ได้ทดลองใส่มาเกือบอาทิตย์ ในความรู้สึกส่วนตัวคิดว่ามันใส่แล้วสบายกว่ารองเท้าผ้าใบทั่วไป ด้วยความที่มันเป็น AIR แบบเต็มตัว ทำให้เวลาเดินเรามันเด้งรับแรงกระแทกของเรา จึงค่อนข้างสบายเท้ารวมไปถึงหัวเข่าที่ไม่ต้องแบกรับแรกกระแทกเหมือนเราเดินเท้าเปล่า ในที่สุดมันก็กลายเป็นรองเท้าคู่โปรดที่ผมใส่ทุกวันไปแล้ว